8/29/07

หุ่นยนต์...คนเมือง

ก่อนสีสันส้มแสด...แดดทาฟ้า
เหล่านกกาโผผินบินขับขาน
เอื้อนคำเอ่ยร่ำลาราตรีกาล
คลี่มืดม่าน..รับรุ่งแจ้ง..แสงตะวัน

หลายชีวิตงัวเงียเพลียไม่หาย
ยังสบายเพลินหลับอยู่กับฝัน
แต่ภาระหน้าที่มีผูกพัน
ในหัวงการผ่านผันวันเวลา

ใกล้ถึงซึ่งฟ้าสาง.....
เริ่มเดินทาง..จำพราก.จากเคหา
ยืนห้อยโหน..ยัดเยียด..เบียดเสียดมา
ก้นชนขา..หน้าชนหลัง..รั้งเอนโอน

เพิ่งเช้าเท่านั้น...ฟ้าเริ่มสาง
ถนนว่าง.น่ากลัวจริง..วิ่งผาดโผน
เจอไฟแดงเบรคซ้ำคะมำโยน
สองแขนโหน..อ่อนล้า..พะว้าพะวัง

พอสายเข้าอีกนิด
รถราติดขัดข้องทั้งสองฝั่ง
ดมกลิ่นไอควันเสียอ่อนเพลียจัง
ทางก็ยังอีกไกลใจกังวล

หลายชั่วโมงเสียไปในเช้านี้
หลายชีวีถูกขังไว้ในถนน
หลายมลพิษชีวิตเผชิญผจญ
หลายเหตุผลต้องทำใจอยู่ในกรุง
.................
.....................
.................
ก่อนสีสัน..ส้มแสด..แดดลาฟ้า
สิ้นเวลาเปล่าเปลืองในเมืองรุ่ง
กับม่านหมอก..ควันปล่อย..ล่องลอยฟุ้ง
แหละวันพรุ่ง...ก็จะเป็นเหมือนเช่นเคย

มนุนย์..หุ่นยนต์..คน...เครื่องจักร
เหนื่อยนักชีวิน..ชาชินจนเฉย
ซ้ำซ้ำ..ซากซาก..ลำบากจังเลย
ความสุขเจ้าเอย..ไร้แล้งแห้งใจ

3 comments:

chanakith said...

เฮ้อออออ

เหนื่อยนักชีวิน..ยังไม่ชิน..จึงช้ำใจ

"หุ่นยนต์...คนเมือง"
โดนมากๆ เลยพี่

สายน้ำพระจันทร์ said...

น้าน้ำพี้ น้องชนา เคยได้ยินเพลงนี้ไหม

..ฉันคิดไปเป็นชาวเกาะ มีชีวิตกลางแดดและคลื่นลม จะจูบอำลาสังคม แสงสีในเมืองนภา
หากเบื่อชีวิตในเมืองกรุงและคิดจะมุ่งแสวงหา ...

จำได้เลาๆแค่นี้ แต่สมัยก่อนหลายคนคงชอบ
คนที่ต้องฝ่าฟันกับชีวิตในเมืองกรุง อันยุ่งเหยิง

น้าน้ำพี้แต่งกลอนบทนี้ได้โดนจริงๆ เห็นภาพชัด
ทำให้นึกถึงสมัยก่อนที่ช่วงหนึ่งผจญชีวิตในกรุงเทพฯ
และบอกกับตัวเองว่า
ถ้าต้องเลือกอยู่ที่ไหนสักแห่งขอเลือกกรุงเทพเป็นที่สุดท้ายแล้วกัน ..ไม่ไหว

ให้ชินก็พอชินได้ แต่ไปที่อื่นดีกว่า ยกเว้น ชิน วัด นะคะ


ชนาเก็บตังพาแม่ไปอยู่ต่างจังหวัด ดีไหม
ยุอะไรที่ยากๆ อ่ะนะ

น้ำพี้ said...

อยากบอกว่า ตอนเขียนหน่ะ นึกถึงชนาเลย เพราะรู้ว่าต้องเดินทางไกลม้าก ...มาก

ชิน วัด โอเค นะน้าสายน้ำ
แต่ ชิน วัตร ไม่หวาย...