10/26/07

ความงามแห่งฟากฟ้า ณ เวลาอันต่างกัน

ดาดดื่นหมื่นดารา
ระยิบตาละลานใจ
หันมองทิศทางใด
วะวิบไหววิไลดาว

คืนนี้ไม่มีโสม
ปลาศโคมระยับพราว
ดาวน้อยจึ่งวับวาว
อะคร้าววันพระจันทร์ไกล

ดุจเทียนอันวาววิบ
ระยับยิบ ณ แดนไกล
อยากเอื้อมไปคว้าไขว่
อะเคื้อดาวสกาวดวง

หนึ่งสองสามสี่ห้า
คณานับ..นะ...ดาวปวง
คืนดาวให้กับสรวง
ลุล่วงก่อนอรุณกาล

ใกล้เช้า...แสงฉาดฉาย
ระบายฟ้าทิวาวาร
ราตรีที่ยาวนาน
จะผ่านผัน..ตะวันแทน

อาทิตย์เตรียมวาดฟ้า
กระจ่างตา ณ ดินแดน
เริ่มวันอันสุขแสน
สว่างจ้านภางาม

10/25/07

เส้นทาง สับสนของต้นกล้า (เรื่องสั้น)

ในละแวกนี้ใคร ๆ ก็รู้จักเด็กชายต้นกล้า เพราะ ต้นกล้าเป็นขาใหญ่ประจำซอยด้วยวันเพียงสามขวบครึ่งเท่านั้น แก้มยุ้ย ๆ พุงกลม ๆ ของเด็กชายเป็นเหมือนป้ายโฆษณาสินค้าชั้นดี ที่ทำให้พี่ป้าน้าอาลุงแม้กระทั่งปู่ย่าตายายในชุมชนแห่งนี้ อดไม่ได้ที่จะเข้ามาแสดงความเอ็นดูทุก ๆ ครั้งที่พบเห็น ด้วยการมาหยิก มาหอมแก้ม หรือแม้กระทั่งอุ้มเด็กชายขึ้นมาแล้วเป่าปู๊ด..ปู๊ดตรงพุงจนเจ้าตัวดีหัวเราะคิกคัก ความเจ้าเนื้อและเจ้าคารมที่สามารถตอบโต้ทันควันของเด็กชาย ทำให้ต้นกล้ากลายเป็นขวัญใจของหมู่บ้านไปเสียแล้ว

อ่านต่อ

เชิญอ่านต่อที่ Opera นะคะ เพราะที่นี่ไม่เหมาะแก่การ Post เรื่องงสั้น

10/24/07

ล้วนแล้วแต่ญาติ

น้องมิ้มมีลูกแมวเหมียวสีขาวน่ารักชื่อเจ้ามะดันดอง
วันหนึ่ง...เจ้าแมวน้อยไม่สบาย
ปะป๊า...เลยพาเจ้า'ดันดองไปหาหมอ โดยมีน้องมิ้มไปด้วย
ระหว่างรอหมอ.....
น้องมิ้มนั่งมองสิ่งรอบกายอย่างสนอกสนใจ
บางคนพาแมวมา บางคนพาหมามา ...บางคนก็พานกมา
หมาตัวหนี่งเข้าไปทำความรู้จักหมาอีกตัวหนึ่ง
เจ้าของเลยได้พูดจาทักทายกันไปด้วย
มิตรภาพง่าย ๆ เกิดขึ้นที่นั่นตามประสาคนรักสัตว์
เมื่อถึงคิวของตัว..เจ้าของก็พาสัตว์เลี้ยงไปพบคุณหมอ
และออกมานั่งคอยรอเรียกชื่อ
เจ้าหน้าที่ทยอยขานชื่อทีละคน
คุณรัตนา ติดต่อการเงินค่ะ
คุณสาธิต ติดต่อการเงินค่ะ
คุณสมศักดิ์ ติดต่อการเงินค่ะ
...และอีกหลาย ๆ คน
น้องมิ้มนั่งฟังดัวยความสงสัย...ก่อนเอ่ยถามปะป๊าว่า
"ป๊า...ทำไมเขานามสกุล ติดต่อการเงินกันทุกคนเลยล่ะ
สงสัยเค้าต้องเป็นญาติ แล้วชวนกันมาแน่เลย"
ปะป๊า ...??????

10/17/07

ชีวิตหนอวุ่นวาย

บางคนต้องการ
ที่จะ"มีใครสักคน"...

บางคนต้องการ
ที่จะ"เป็นใครสักคน"

บางคนต้องการ
ผลักไสการ"มีใครสักคน"

บางคนต้องการ
หลุดพ้นจากการ"เป็นใครสักคน"

บางคนอยากตัด...
บางคนอยากต่อ
ชีวิตนี้หนอ..วุ่นวาย..

10/15/07

น้องมิ้มลูกแม่มด..วันอันรันทดของหนู

พี่เลี้ยงชาวต่างชาติของน้องมิ้มกลับบ้านไปแล้วหล่ะ
หลังจากเสียน้ำตากันไปหลายรอบ
น้องมิ้มก็ต้องเริ่มทำตัวคุ้นเคยกับพี่เลี้ยงใหม่ซึ่งเป็นชาวต่างชาติเหมือนกัน
วันนั้นแม่มดก็ปล่อยให่เจ้าตัวดีอยู่กับพี่เลี้ยง
สักพักน้องมิ้มบ่นหิว...
พี่เลี้ยวหันซ้ายหันขวาถามว่าน้องมิ้มจะกินอะไร ไม่มีอะไรเลยมีแต่ข้าวสวย
น้องมิ้ม : พี่ตุ่นก็ทอดไข่ให้หนูกินซิ
พี่ตุ่น : ไข่ก็ไม่มี
น้องมิ้ม : งั้นไปซื้อร้านย่าสิ
พี่ตุ่น : แล้วมีเงินเหรอ...
น้องมิ้มส่ายหน้า สรุปวันนั้นเจ้าตัวดีได้กินข้าวสวยคลุกซีอิ้ว เป็นอาหารกลางวัน
น้าฟังหลานเล่าแล้วน้ำตาแทบร่วง..โถ..ทำไมชีวิตหนูถึงลำบากแสนสาหัสอย่างนี้
แล้วแม่มดทำไมไมซื้อกับข้าวติดบ้านไว้บ้างเลยหรือ
ปรากฎว่าแม่มดซื้อไว้เพียบในตู้เย็นมีทั้งไก่ ทั้งหมู ทั้งผัก สารพัดอย่าง
แต่ที่น้องมิ้มต้องกิน ข้าวเปล่าวันนั้น ก็เพราะพี่ตุ่นตัวดีทำกับข้าวไม่เป็น
วันก่อนสอนให้ทอดปลา พี่ตุ่นก็ทอดปลาให้น้องมิ้มกินทุกวัน...จนกระทั่งปลาหมด
เหลือไก่..หมู ..เธอทอดไม่เป็นซะงั้น
เฮ้อ..สงสารแม่มดจริง ๆ คงต้องสอนพี่ตุ่นให้ ทอดปลา ทอดหมู ทอดไก่ ทอดเนื้อ
แลัว คงต้องสอนผัดผักทีละอย่าง วันนี้สอนผัดผักบุ้ง วันต่อไปผัดคะน้า ฯลฯ
เพราะแค่เปลี่ยนวัตถุดิบ คุณเธอก็ทำไม่เป็นเสียแล้ว
...วันนี้น้าคงต้องซื้อ หมูแผ่น หมูหยอง ไปตุนไว้ให้แล้ว
ไม่งั้นเดี๋ยวเจ้าตัวดีจะกลายเป็นแมง ง๊องแง๊ง หัวโต ตัวฟีบ..ไป

10/12/07

สาธุ...สักวันฉันจะเป็นกวี

โอ้...กวี
จริงหรือเจ้าหลีกหนีมาจากฟ้า
ทิ้งสวรรค์สรรสรวงปวงมายา
หลงเพลินมาเพ้อคำลำนำกลอน

กวีมาจากไหน....
ฤาหลั่งรินจากใจ..อันไหวอ่อน
จากสองตาแสนซื่อสื่อสะท้อน
รู้สึกอันซับซ้อน..ในดวงใจ

กวี..เกิดเพื่อเขียนกวี
เป็นภาระหน้าที่หรือมิใช่
ใยกวีจึงแปลก..แยกจากใคร
ทุกมุมมองที่เป็นไปในกวี

หน้าที่..หรือ..เหตุผล
ที่ดุ่มด้นบนทางเลือนลางนี้
ชื่อเสียง..ทรัพย์สิน..ไม่ยินดี ?
พอใจแค่ที่มี..และ..ที่เป็น

คำตอบของคำถาม...
ขึ้นอยู่กับนิยามความคิดเห็น
ถกเถียง...ได้มากมายหลายประเด็น
คำตอบเร้นอยู่ใน..ดวงใจเธอ (กวี)

กวี..ปราชญ์..อุดมคติ..ปรัชญา
กวี..เสาะหา..ดื่มด่ำ..พร่ำเพ้อ
กวี..อหังการ์..ประเสริฐเลิศเลอ
กวี..ทีพบเจอนั้นเป็นเชนไร

ตอนนี้ยังมิใช่กวี....
เป็นแค่คนที่มีความอ่อนไหว
เลือกคำพ้องคล้องเสียงเรียงเรียงไป
ตามคำร้องของใจ.ให้เป็นงาน

"กวี"..สักวันต้องเป็นให้ได้...
บ่มเพาะความอ่อนไหวอันแสนหวาน
เลือกสรรถ้อยงามงด..ร้อยบทกานท์
คนเรัยกขานว่าเป็นเช่นกวี..

(สาธุ...สักวันฉันจะเป็นเช่นกวี)

แรงบันดาลใจจาก "ต่ำต้อย...แต่ไม่ต่ำทราม" ของโดยคำค่ะ

10/9/07

พระอาทิตย์ช่วยหน่อยดิ...

พระอาทิตย์หนูขอ
ไม่รอพระจันทร์
งานของหนูนั้น
ทำไมมากมาย

ยิ่งทำยิ่งยุ่ง
นุงนังวุ่นวาย
หนูอยากจะตาย
ใครหนอช่วยที

กว่าจันทร์จะมา
ก็ยามราตรี
พระอาทิตย์คนดี
ช่วยหนูหน่อย...นะ...

10/7/07

ดางดวงนั้นพระจันทร์ของหนู...(พระจันทร์มีเพื่อนมั้ย)

หนูเป็นเด็กตัวเล็ก
มีเพื่อนเป็นเด็กเหมือนกัน
วิ่งเล่นซนทั้งวัน
แล้วพระจันทร์มีเพื่อนไหม

เพื่อนที่เป็นพระจันทร์
เล่นด้วยกันทุกวันไป
หนูมอง..ทีไร
ทำไมเห็นแค่จันทร์ดวงเดียว

หรือเพื่อนพระจันทร์
ทิ้งกันไปเที่ยว
ปล่อยให้จันทร์เสี้ยว
อยู่เดี่ยวเฝ้าฟ้า

10/6/07

ดาวดวงนั้นพระจันทร์ของหนู (ดอกไม้ดวงดาว)

ดอกไม้หน้าบ้าน
ผลิบานหลากสี
ขาวส้มชมพูมี
ผีเสื้อนานาพันธุ์
ดอกไม้ดวงดารา
ในทุ่งฟ้าของพระจันทร์
วับวาววิบสวยดี...
แต่ไม่ค่อยมีสีสัน
ดอกไม้ดาวบานกลางคืน
ดอกไม้อื่นบานกลางวัน
สวยอ่อนหวานปานกัน
หนูกับพระจันทร์
...ชมเพลิน

10/5/07

ดาวดวงนั้นพระจันทร์ของหนู.. (ชิงช้าจันทร์เสี้ยว)

หนูเห็นจันทร์เสี้ยว
เกาะเกี่ยวบนฟ้า
อยากเล่นชิงช้า
แกว่งโหนโยนไกล

เล่นชิงช้าบนนั้น
พระจันทร์จะหนักไหม
หนูตัวไม่ใหญ่
เท่าไหร่นะ..พระจันทร์

ค่อยไกว..ค่อยแกว่ง
คืนแห่งความฝัน
ดาวดื่นหมื่นพัน
มาช่วยกันร้องเพลง

10/2/07

อันสืบเนื่องมาจากดาวดวงนั้น

อันสืบเนื่องมาจากดางดวงนั้น

ได้ต่อว่าไปค่อนข้างแรง ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมขอโทษแต่โดยดี

ดังนั้น จึงได้ลบกระทู้อันเก่าออกไป

จริง ๆ แล้ว อยากแก้เฉพาะ Original Post แต่เผลอไปทำผิด
ข้อคิดเห็นของน้อง ๆ เพื่อน ๆ เลยหายหมดเลย

แต่ต่อว่าเรื่องงานของน้าสายน้ำ ที่โดนคัดลออกไปแล้วด้วยค่ะ

10/1/07

นิยายรักสามเส้าของดาวเดือน

พร่างพราวดาวกระพริบระยิบระยับ
คณานับที่โน่นและที่นี่
ดุจจุดเทียนเล่มน้อยร้อยหมื่นมี
ฟ้าราตรีหรี่ริบวับวิบวาว

กระพริบแสงเย้าหยอก..หรือหลอกล่อ
ลวงเล่นล้อฟ้าพร่าง ณ กลางหาว
ดุจสัญญาผูกพันอันนานยาว
คือดวงดาวเคียงฟ้ายามราตรี

คืนแรมไร้จันทร์เพ็ญ...ดาวเด่นแสง
วะวามวิบ..แต้มแต่งทุกแห่งที่
เพียงข้างขึ้นเปลี่ยนสลับกลับอีกที
ฟ้าคืนนี้..ไร้แสงพราวแห่งดาวดวง

เพราะฟ้าชื่น..รื่นใจเคียงใกล้โสม
ประดุจโคมสว่างแสน ณ แดนสรวง
ข่มดาวน้อย..พันหมื่น...ดาดดื่นปวง
หลีกเร้นร่วงหลบหน้า..ดาราอาย

เออ.หนอ..เพียงไม่กี่วารที่ผ่านผัน
ถ้อยคำเอ่ยเคยมั่นกลับพลันหาย
เพียงพบแสงใหม่อันพรรณราย
ฟ้ากลับกลายลืมคำพร่ำวาจา

จากข้างขึ้น..หมุนผ่านอีกกาลหนึ่ง
ฟ้าหวนซึ้งถามทวงความห่วงหา
เคียงชิดใกล้หยอกเย้า...เจ้าดารา
ย้อนทบทวนหวนมา...สัญญาใจ

ความสัมพันธ์จริงใจอยู่ไหนนั่น
มีแค่เพียงพบกันให้หวั่นไหว
แล้วพรากพลัดจืดจางแรมร้างไกล
ก่อนเวียนใหม่มาพบคบอีกที

นิยามรักสามเส้าแห่งดาวหมอง
กับเดือนผ่องดำเนินไปในวิถี
ผลัดกันเคียงฟ้าครามยามราตรี
และเป็นอยู่อย่างนี้...ตราบเนานาน...