11/13/07

ที่นี่มีรัก (เรื่องของต้นไผ่)

ใคร ๆ มักบอกว่ากรุงเทพมักเป็นดินแดนที่ผู้คนไม่มีน้ำใจมอบให้แก่กัน แม้กระทั่งบ้านใกล้เรือนคียงก็ยังไม่รู้จักกัน แต่คำกล่าวนั้นอาจใช้ไม่ได้กับหมู่บ้านแห่งนี้ หรืออาจเป็นเพราะบางทีพวกเราทั้งหลายล้วนมีพื้นเพมาจากต่างจังหวัด นิสัยและความมีน้ำใจให้แก่กันแบบสังคมไทยดั้งเดิมจึงติดตัวมาอยู่

บ้านฝั่งตรงข้ามเยื้อง ๆ กับบ้านแม่มดเป็นบ้านของน้าหนู วิศวกรสาวชาวใต้ผู้มีกิจการร้านขายวัสดุก่อสร้าง ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าบ้านน้าหนูฐานะดีแน่นอน น้าหนูเป็นน้าที่ใจดีสำหรับเด็ก ๆ แถบนั้น วันดีคืนดีก็จับเด็ก ๆ นั่งรถไปเที่ยว หรือ ไม่ก็หาขนมหรือของโปรดมาให้อยู่เป็นประจำ ความสัมพันธ์ระหว่างน้าหนูและเด็ก ๆ โดยเฉพาะเด็กที่ชื่อเด็กชายต้นไผ่จึงราบรื่นและเป็นไปด้วยดีเสมอมา หากไม่มีเหตุการณ์วันนั้นเกิดขึ้น


อ่านต่อ

7 comments:

Anonymous said...

ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีความผูกพัน
ในใจมีรัก ในใจ..จึงมีความผูกพันด้วย

น้ำพี้จ๋า..เมื่อไหร่ "นางฟ้า" จะกลับมาปกป้องโลก(แห่งความฝัน)ของฉันเสียที ..ความรู้สึกผูกพันถามหา "นางฟ้า"..

chanakith said...

ที่บ้านชนาเริ่มมีเพื่อนบ้านเยอะก็ตอนมีเจ้ากัป พอมีเจ้ากรอีกคนนี่ รู้จักคนเพิ่มไปอีก 2-3 ล็อก (ทาวน์เฮาส์น่ะค่ะ)โน่นเลย

Anonymous said...

บางครั้ง ผมรู้สึกว่า ตัวเองเหมือนเด็กที่นั่งอยู่กลางสะพาน และเอาแต่วิงวอนให้สายน้ำไหลย้อนกลับ พร้อมกับนำเอาดอกไม้ที่แสนรัก กลับคืนมาด้วย

ผมเสียใจ..ที่ถนอมรักษาดอกไม้นั้นไว้ไม่ดี..
ผมจะไม่โทษสายน้ำที่ไม่ไหลย้อนกลับ..
ผมโทษตัวเอง..ที่โง่เขลา..ได้รับดอกไม้แห่งมิตรภาพอันแสนงามแล้ว แต่กลับถนอมรักษาดอกไม้นั้นไว้ไม่ได้..

พี่น้ำพี้ พี่ศรีประภา พี่สายน้ำพระจันทร์ น้องชนา สบายดีทุกคนนะครับ? แต่ว่าผม..เหงาจัง..

chanakith said...

ฮัลโหลๆ
พี่ไผ่กะน้องมิ้มรู้จัก ‘เมืองมะโว้’ มั้ย
(น้องกรทำคุณน้ามึนซะ)

น้ำพี้ said...

จะลองถามให้นะคะ

แต่น้าหน่ะ รู้จักแค่เมืองละโว้ กับ ปีมะโว้

แต่ไม่รู้ว่ามันมาสมาส ชน สนธิ เชื่อม หรือ ผวน กันอย่างไรถึงเป็น เมืองมะโว้ ของพี่กร

สายน้ำพระจันทร์ said...

ลงจากดอยมะโว้มาหลายวัน
เพิ่งจะได้เข้ามา
ช่วงนี้น้ำขึ้นค่ะน้าน้ำพี้ เลยต้องรีบตัก
ทั้งงานวัด งานโรงเรียน ..อิ อิ

กลับมาเจอ "เมืองมะโว้" ของพี่กร หายมึนเลย
สงสัยจะเป้นเมืองขึ้นใหม่ของเหล่าอุลตร้าแมนของพี่กร

ที่หมู่บ้านที่ไปมาบนดอย
อาจจะเรียกเมืองมะโว้ ได้เหมือนกัน
เพราะไปเจอเด็กน้อยๆ กินนมข้นตรามะลิผสมน้ำ
ที่หนักกว่านั้น แม่เอาน้ำตาลละลายน้ำให้กินแทนนม
เห็นจะจะ ทำเอาตาค้าง
สภาพเด็กส่วนใหญ่ ต้องร้องอื้อ หือ ดงพยาธิกับกลากเกลื้อนเลย

ถ้าเขียนเล่าเก่งๆ อย่าชนา อย่างน้าน้ำพี้
คงได้หลายหน้าแน่ๆ

ถ่ายภาพมายังอยู่ในม้วน
ได้ล้างเมื่อไหร่จะเอามาให้ดูชม ที่บล๊อกแล้วกันนะคะ

คุณศรีประภา น้องใบตอง
น้องตี๋น้อย เป็นไงกันบ้าง

chanakith said...

น้าน้ำพี้เดาเก่งจัง เมืองมะโว้ของเจ้ากรก็คือเมืองละโว้นั่นล่ะค่ะ เรื่องมันเป็นแบบนี้ค่ะ

กร : น้าๆ เมืองมะโว้อยู่ที่ไหน
น้า : เมืองมะโว้ไหนไม่รู้จัก รู้จักแต่ปีมะโว้
กร : ไม่ใช่ปีมะโว้ เมืองมะโว้สมัยก่อน ที่...อะไรสถานนะ หนูเห็นในทีวี เค้าชวนไปเที่ยว
น้า : อ๋อ เมืองละโว้ครับ

แล้วน้องใหม่เด็กหญิงตัวจิ๋วลูกพี่ลูกน้องของกรก็ถามขึ้นมาว่า...
น้องใหม่ : ยังงี้ถ้าจะไปเที่ยวเมืองมะโว้ก็ต้องนั่งไทม์แมชชีนไปสิคะ

=======
ป้าสายกลับมาแล้ว เย้ๆๆๆ รอดูรูปค่ะ