7/22/07

เสียงแคนใต้สะพาน

สองตายายซมซานจากบ้านป่า
หวังมาหาความรุ่งเรืองในเมืองหลวง
เก็บความทุกข์ลำบากฝากกับดวง
อยากก้าวล่วงหลุดพ้นความจนเสียที

สองตายายซมซานขอทานเขา
เสียงแคนเป่าตาบรรเลงเพลงสุขขี
ยายก็ร้องขับขานเสียงหวานดี
บอกเล่าถึงวืถีแห่งพงไพร

สองตายายเดินบนถนนร้อน
เที่ยวเร่รอน..ซอนซอกตรอกไหน ๆ
อาย..แสน..อาย..แต่จำเป็นโปรดเห็นใจ
เพราะไม่รู้จะทำอย่างไรให้มีกิน

สองตายายหวังเพียงผู้เมตตา
แลกบทเพลงบรรเลงมาด้วยทรัพย์สิน
ไม่ต้องมากแค่พอต่อชีวิน
ให้อยู่ได้จนวันสิ้น..สังขารตน

สองตายายงก ๆ เงิ่น ๆ เดินไปทั่ว
ไม่นึกกลัวรถขวักไขว่ในถนน
บางวันเมื่อยเหนื่อยอ่อน..สุดร้อนรน
บางวันก็ตากฝน...จนเปัยกปอน

สองตายาย..อาศัย..ใต้สะพาน
ถึอเป็นบ้าน..เหนื่อยนัก..ได้พักผ่อน
ยามตกค่ำ..มืดมัว..ซุกหัวนอน
หยุดเวลาเร่รอนไว้ชั่วคราว

สองตายาย..ผ่านคืนวัน..อันทุกข์ทน
เคียงข้างอยู่..สองคน..ร้อนฝนหนาว
ด้วยความรักผูกพันกันนานยาว
ทุกย่างก้าว...มือกุมจับประคับประคอง

ใต้สะพาน..มีเสียง..แล๊...หล่ะ..แล๊น
บทเพลงขับขานแคนอันแสนหมอง
เช้าวันนี้ยินเสียงเพียงทำนอง
เพราะคนร้อง..จากไป..เมื่อคืนนี้

โอ้เจ้าดอกไม้ป่า..ของตาเอ๋ย
สองเราเคยเดินเคียงข้างไม่ห่างหนี
วันที่เหลือ..ต่อไป..เหมือนไม่มี
เหมือนชีวี..ตาแตกดับ..ไปกับยาย

No comments: